ปัญหาน่าหนักใจที่ชวนให้เจ้าของรถยนต์หลายคนต้องร้องอี๋ก็คือ มีหนูชอบเข้าไปเข้าไปอาศัยอยู่ในห้องเครื่องของรถยนต์ สร้างความรำคาญ ทิ้งสิ่งปฏิกูลไว้จนส่งกลิ่นเหม็นและสกปรก หรืออาจรุนแรงถึงขั้นกัดสายไฟหรือสายเบรกจนส่งผลต่อการทำงานของเครื่องยนต์ได้ เพราะมันชอบเข้าไปหลบฝนที่เครื่องยนต์ หรือบางครั้งก็เข้ามาภายในรถโดยที่เราไม่ทันรู้ตัว เพราะหนูมันชอบที่จะเข้ามาหากินเศษอาหารที่อยู่ในรถยนต์ หากเข้ามาภายในรถ ยังหาตัวจับได้ง่าย ไล่แล้วก็ไป วิธีไล่หนูในรถยนต์ จึงเป็นอีกหนึ่งปัญหาโลกแตก
แต่วันนี้เรามีวิธีไล่หนูในรถยนต์ ป้องกันหนูเข้าไปในห้องเครื่องมาแนะนำให้ลองทำตามง่ายๆ ด้วย 7 วิธี ดังต่อไปนี้ (แนะนำให้ทำควบคู่กันอย่างน้อย 5-6 วิธีในนี้)
วิธีไล่หนูในรถยนต์ ป้องกันหนูเข้าไปในห้องเครื่อง
มาเริ่มกันเลย!
1. ทำความสะอาดห้องเครื่องรถยนต์
ทำความสะอาดห้องเครื่องของรถยนต์ให้สะอาดหมดจด ซึ่งต้องระมัดระวังด้วยการล้างหลังจากที่จอดรถยนต์ให้เครื่องเย็นไว้สักพักแล้วเท่านั้น ใช้ถุงพลาสติกครอบบริเวณฟิวส์ กล่องแปลงกระแสไฟฟ้า และสายไฟ ก่อนที่จะทำความสะอาดด้วยการเช็ดด้วยฟองน้ำผสมน้ำยาล้างจาน แล้วฉีดน้ำทำความสะอาด ยกเว้นรถยนต์แบบไฮบริดที่แนะนำให้เช็ดทำความสะอาดแบบแห้งเท่านั้น หากคุณไม่มั่นใจ ก็สามารถใช้บริการคาร์แคร์ใกล้บ้านจะดีที่สุด
2. ติดเครื่อง และเปิดฝากระโปรงรถยนต์ทิ้งไว้
อีกหนึ่ง วิธีไล่หนูในรถยนต์ ที่ง่ายมา และทำได้เลยคือการจอดรถไว้ในที่ร่มแล้วเปิดฝากระโปรงแล้วติดเครื่องทิ้งไว้สักพัก เพื่อสร้างความรำคาญให้กับหนูแล้วหนีออกมา
วิธีนี้จากที่เคยลองต้องอาศัยความสม่ำเสมอหน่อย เช่น หากจอดรถอยู่บ้านก็ออกไปสตาร์ทเป็นช่วงๆ เพื่อให้หนูเริ่มชินว่าอยู่แถวนี้ไม่ได้
แต่ปัญหาคือ แล้วตอนกลางคืนล่ะ..? ดังนั้นเราเลยแนะนำให้ทำวิธีที่ 3 นี้ด้วย
3. ใช้อุปกรณ์ไล่หนู
อุปกรณ์ไล่หนูมีหลายอย่างด้วยกัน ทั้งกาวดักหนู กับดักหนู ที่ต้องล่อด้วยของกิน ไล่ด้วยการวางห่อบรรจุลูกเหม็น ไล่ด้วยยาไล่หนูที่มีทั้งแบบแผ่น แบบเม็ด หรือเป็นน้ำยาไล่หนู แต่อุปกรณ์เกล่านี้สร้างปัญหาตามมา ตรงที่เราต้องไปคอยเก็บซาก บางทีก็เหม็นเน่า
อุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเลยหนีไม่พ้น เครื่องไล่หนู ซึ่งควรเป็นเครื่องไล่หนูแบบที่ปล่อยคลื่นเสียง Ultrasonic และ Electromagnetic ได้ รวมๆ แล้ว 4 คลื่น เพราะบางยี่ห้อมีราคาถูกโดยสามารถปล่อยได้แค่คลื่นเดียว ก็จะทำให้ประสิทธิภาพต่ำลง

ซึ่งเสียงเหล่านี้จะส่งผลให้หนูเกิดอาการรำคาญ โดยเครื่องที่ได้รับความนิยมที่สุดคือ APR-502 ที่ตอนนี้ทาง ActiveSonic จัดโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะเดือนนี้ จาก 1,990 บาท เหลือ 990 บาทเท่านั้น และ APR-501 เหลือ 790 บาท

การติดเครื่องไล่หนูไม่ควรติดในที่แจ้ง เพราะเครื่องไม่กันน้ำ และควรติดอย่างน้อย 2-3 จุด เพื่อป้องกันไม่ให้หนูย้ายจากอีกที่ไปอยู่อีกที่ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องกำจัดแหล่งอาหารให้ได้ เพราะหากแหล่งอาหารเยอะ มีของอร่อยๆ มายั่ว บางทีเจ้าหนูก็อาจยอมฝ่าคลื่นเพื่อไปกินอาหารได้เหมือนกัน
ติดต่อ ActiveSonic เพื่อสอบถามเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าราคาโปรโมชัน
4. ทำความสะอาดภายในรถยนต์
หนูชอบเข้ามาในรถยนต์เพื่อหาเศษอาหารกิน เพราะฉะนั้นเราต้องหมั่นทำความสะอาดภายในรถอยู่เสมอ โดยเฉพาะหลังจากที่เพิ่งทานอาหารบนรถเสร็จใหม่ๆ รวมไปถึงทำความสะอาดแหล่งน้ำขังภายในรถของเราด้วย เมื่อกำจัดแหล่งอาหารของหนูทิ้งไปเรียบร้อยแล้ว ก็จะไม่มีกลิ่นของอาหารคอยดึงดูดหนูให้กลับเข้ามาได้อีก
5. ปิดใต้ท้องรถ
รถบางรุ่นปิดใต้ท้องรถมาค่อนข้างมิดชิดแล้ว ทำให้ไม่เป็นที่น่าเป็นห่วงมากเท่าไหร่ แต่ถ้าที่ปิดพังจนมีรูให้หนูมุดเข้าไปได้ หรือรถบางรุ่นไม่ได้มีที่ปิดใต้ท้องรถอย่างมิดชิด ก็อาจจะต้องเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ให้เรียบร้อย ซึ่งหาได้ตามร้านประดับรถยนต์
6. ย้ายที่จอดรถ
คุณจอดรถไว้ที่ไหน? อยู่ใกล้กับแหล่งที่หนูชอบอยู่อาศัยอย่างตามท่อหรือถังขยะหรือเปล่า? ถ้าใช่ก็อาจจะต้องเปลี่ยนที่จอดรถ หรือถ้าจอดไว้ภายในโรงรถ ก็อาจจะต้องทำความสะอาดโรงรถให้เรียบร้อยอีกแรง
7. เลี้ยงแมวไว้ที่บ้าน
เครื่องมือไล่หนูที่ดีที่สุดก็คือแมว เพราะเป็นสัตว์ที่ว่องไวและไล่หนูเก่งมาก ถ้ามีแมวไว้ที่บ้าน รับรองว่าจะเป็นวิธีไล่หนูในรถและยังไล่หนูในบ้านได้อีกด้วย แต่ที่สำคัญคือต้องลองดูตำแหน่งให้ดี เพราะถ้าหนูชอบมาอยู่แถวโรงรถ แต่เลี้ยงแมวในบ้านแบบนี้ก็ไม่โอเค
อาจจะต้องให้กรงแมวอยู่แถวๆ โรงจอดรถ หรือหากจะเปลี่ยนเป็นสุนัข และล่ามไว้แถวโรงจอดรถก็ได้เช่นกัน
และนี่ก็คือวิธีไล่หนูในรถที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ วิธีกําจัดหนูในรถวิธีไหนที่คุณสะดวกที่สุดก็สามารถนำไปปฏิบัติได้เลย การหาที่จอดรถใหม่และเลี้ยงแมวอาจจะไม่สะดวกสำหรับบางคน ก็อาจจะเริ่มด้วยวิธีง่ายๆ อย่างการลองสตาร์ทเครื่องแล้วเปิดฝากระโปรงทิ้งไว้และใช้อุปกรณ์ไล่หนู
ถ้าได้ผลแล้ว แนะนำให้ซื้อแผ่นปิดใต้ท้องรถมาปิดไว้ให้มิดชิด ไม่ให้มีหนูสามารถเข้าไปข้างในตัวเครื่องได้ เพราะนี่คือทางเข้าที่ทำให้หนูสามารถเข้าไปภายในห้องเครื่องได้โดยตรง ซึ่งอาจจะต้องลงทุนกันสักหน่อย
แต่รับรองว่าคุ้มกว่าการต้องซื้ออะไหล่ใหม่เพราะหนูกัดจนพัง และสุดท้ายก็ต้องหมั่นคอยทำความสะอาดอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งอาหารของหนูและป้องกันหนูเข้าห้องเครื่องอีกแรง